HOMEPAGE
วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2562
ความหมายการนำเสนอข้อมูล
การนำเสนอข้อมูล หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น หรือ ความต้องการไปสู่ผู้รับสาร โดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่างๆ อันจะทำให้บรรลุผลสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของการนำเสนอ
ความสำคัญของการนำเสนอ
ในปัจจุบันนี้การนำเสนอเข้ามามีบทบาทสำคัญในองค์กรทางธุรกิจ ทางการเมือง ทางการศึกษา หรือแม้แต่หน่วยงานของรัฐทุกแห่ง ก็ต้องอาศัยวิธีการนำเสนอเพื่อสื่อสารข้อมูล เสนอความเห็น เสนอขออนุมัติ หรือเสนอข้อสรุปผลการดำเนินงานต่างๆ ผู้มีหน้าที่เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ การแนะนำเพื่อการเยี่ยมชม การฝึกอบรม การประชุม หรือผู้ที่เป็นหัวหน้างานทุกระดับจะต้องรู้จักวิธีการนำเสนอ เพื่อนำไปใช้ให้เหมาะสมกับงานต่างๆ และเพื่อผลสำเร็จของการพัฒนางานของตน หรือขององค์กรและหน่วยงานต่างๆ กล่าวโดยสรุป การนำเสนอมีความสำคัญ ต่อการปฏิบัติงานทุกประเภท เพราะช่วยในการตัดสินใจในการดำเนินงาน ใช้ในการพัฒนางาน ตลอดจนเผยแพร่ความก้าวหน้าของงานต่อผู้บังคับบัญชา และบุคคลผู้ที่สนใจ
จุดมุ่งหมายในการนำเสนอ
1. เพื่อ ให้ผู้รับสารรับทราบความคิดเห็นหรือความต้องการ เช่น ในการประชุมคณะ กรรมการต่างๆ ประธานในที่ประชุมจะต้องชี้แจงวาระการประชุมให้ที่ประชุมรับทราบ ที่มักเรียกกันว่าเรื่องที่ประธานจะแจ้งให้ทราบ
2. เพื่อ ให้ผู้รับสารพิจารณาเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น ในการประชุมคณะกรรมการแต่ละครั้งคณะกรรมการฝ่ายต่างๆ จะต้องชี้แจงข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็นให้ที่ประชุมรับได้ทราบ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยหรือลงมติที่ประชุม
3. เพื่อ ให้ผู้รับสารได้รับความรู้จากข้อมูลที่นำเสนอ เช่น ในการฝึกอบรมหรือการสัมมนา วิทยากรหรือผู้เชี่ยวชาญจะต้องนำเสนอข้อมูลที่เป็นข้อความรู้ และข้อเท็จจริงต่างๆ ให้แก่ผู้เข้าฝึกอบรม หรือใช้ ในการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานต่างๆ เพื่อให้ผู้มาเยี่ยมชมกิจการ หรือผู้บังคับบัญชาที่เดินทาง มาตรวจเยี่ยมได้รับทราบ
4. เพื่อ ให้ผู้รับสารเกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง เช่น การชี้แจงระเบียบหรือวิธีการปฏิบัติต่าง ๆ ให้แก่ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจ โดยเฉพาะเมื่อมีการออกระเบียบใหม่หรือเปลี่ยนแนวทางในการปฏิบัติ ก็จำเป็นต้องชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและปฏิบัติได้อย่างถูก ต้อง
ประเภทของการนำเสนอ
1. การ นำเสนอเฉพาะกลุ่ม เป็นการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ต่อผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมรับทราบข้อมูล ในการนำเสนอ
2. การ นำเสนอทั่วไปในที่สาธารณะ เป็นการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมฟังการนำเสนอได้ มีการเปิดโอกาสให้ผู้ฟัง ได้ซักถามเพิ่มเติมหรือแสดงความคิดเห็นได้อีกด้วย
ลักษณะของข้อมูลที่นำเสนอ
ในการนำเสนอแต่ละครั้งนั้น สามารถนำข้อมูลที่มีลักษณะแตกต่างกันมาร่วม นำเสนอด้วยกันได้ ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของผู้นำเสนอ ข้อมูลที่จะนำเสนอแบ่งออกตามลักษณะของข้อมูล ได้แก่
1. ข้อ เท็จจริง หมายถึงข้อความที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เรื่องราวที่เป็นมาหรือเป็นอยู่ตามความจริง หรือสามารถตรวจสอบให้เป็นที่ประจักษ์ได้ว่าเป็นความจริง อาจเป็นความรู้ที่ได้จากการทดสอบหรือทดลองทางวิทยาศาสตร์ก็ได้ สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐาน ข้ออ้างอิงสำหรับกล่าวอ้างถึงในการพิสูจน์สิ่งใดสิ่งหนึ่งได้
2. ข้อ คิดเห็น เป็นความเห็นอันเกิดจากประเด็นหรือเรื่องราวที่ชวนให้คิด อาจเป็นความรู้สึก ความเชื่อถือหรือแนวคิดที่ผู้นำเสนอมีต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ความเห็นของแต่ละคนอาจแตกต่างกันได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นฐานและประสบการณ์ ของแต่ละบุคคล ข้อคิดเห็นต่างจากข้อเท็จจริง คือ ข้อเท็จจริงเป็นเรื่องจริงที่ยอมรับกันโดยทั่วไป แต่ข้อคิดเห็นอาจมีทั้งผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ฟังเป็นผู้ตัดสินใจว่าข้อคิดเห็นนั้น ๆ น่ารับฟังหรือไม่ สมเหตุสมผลเพียงใด ข้อคิดเห็นมีลักษณะต่าง ๆ กัน
2.1. ข้อ คิดเห็นเชิงเหตุผล เป็นข้อคิดเห็นที่อ้างถึงเหตุผล อ้างถึงข้อเปรียบเทียบที่ เชื่อถือได้ และความมีเหตุผลต่อกัน โดยชี้ให้ผู้รับฟังเห็นว่า ควรทำอย่างนั้นเพราะเหตุเช่นนี้ แต่ถ้าไม่ทำอย่างที่กล่าวก็จะมีผลตามมาอย่างไรบ้าง โดยทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลของผู้แสดง ความคิดเห็นเท่านั้น
8 สถานที่ เที่ยวอีสาน มหัศจรรย์หนึ่งเดียวของประเทศ
HOMEPAGE
1. จูราสสิกพาร์คเมืองไทย
ท่องดินแดนไดโนเสาร์ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นแหล่งค้นพบกระดูกไดโนเสาร์มากมาย รวมถึงสายพันธุ์ใหม่ของโลก ได้ที่ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง จ.ขอนแก่น และพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว อ.สารขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาที่สมบูรณ์ที่สุด ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
…
2. แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง
เรียนรู้โลกยุคก่อนประวัติศาสตร์กว่า 5,000 ปี ได้จาก “แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง” อ.หนองหาน จ.อุดรธานี อีกหนึ่งในมรดกโลก แหล่งขุดพบโบราณวัตถุต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเครื่องปั่นดินเผาของที่นี่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แสดงถึงความเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีความเจริยญทางวัฒนธรรมอาศัยอยู่หนาแน่นมาหลายพันปี
…
3. มหัศจรรย์พนมรุ้ง
ชมปราสาทหินที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย และชมปรากฏการณ์มหัศจรรย์ แสงตะวันส่องทะลุประตู 15 ช่อง ที่ประสาทหินพนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 (เมษายน) ของทุกปี ชาวบ้านจะเดินเท้าขึ้นมาชมความหัศจรรย์ที่ผสมผสานระหว่างธรรมชาติ และสิ่งก่อสร้างของบรรพชน จนกลายเป็นงานประเพณีที่สำคัญของจังหวัด
…
4. สามพันโบก
ตื่นตากับธรรมชาติอันวิจิตรที่แก่งหิน “สามพันโบก” แหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตของจังหวัดอุบลราชธานี ประติมากรรมหินทรายที่เกิดจากแรงวนน้ำกัดเซาะเมื่อหลายพันปี เกิดเป็นแอ่งเล็กแอ่งใหญ่มากกว่า สามพันแอ่ง หรือ สามพันโบก (ในภาษาอีสาน) ในช่วงฤดูน้ำหลากแก่งหินนี้จะจมอยู่ใต้ลำน้ำโขง ประมาณเดือนมิถุนายน แก่งหินจะโผล่พ้นน้ำอวดความงามให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม
…
5. น้ำตกแสงจันทร์ Unseen in Thailand
ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
น้ำตกงามในฉากโฆษณาชุดสุวรรณภูมิ ที่พรั่งพรูจากรูหินเหนือเพิงถ้ำ มองดูคล้ายแสงจันทร์สาดส่องลงมาสู่โลก อีกทั้งเมื่อสายน้ำกระทบสู่ผืนน้ำเบื้องล่าง ยังกระจายตัวเป็นรูปหัวใจสีขาวน่าอัศจรรย์
…
6. กุ้งเดินขบวน แห่งอุบล
สุดทึ่งกับขบวนปรากฏการณ์กุ้งเดินขบวน ตลอดเดือนกันยายนของทุกปี ในช่วงเวลากลางคืน บริเวณน้ำตกแก่งลำดวน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี จะปรากฏเหตุการณ์มหัศจรรย์ เมื่อบรรดากุ้งน้ำจืดขนาดเล็ก หรือกุ้งฝอยนับล้านๆ ตัว ต่างพากันพร้อมใจเดินพาเหรด บนพลาญหิน ลานพันรู ระยะทางประมาณ 30 เมตร เพื่อหลบความรุนแรงของกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวของน้ำตกแก่งลำดวน มุ่งหน้าสู่ยอดเขาสูง “สามเหลี่ยมมรกต” ไปยังแหล่งต้นน้ำ เพื่อไปวางไข่ และผสมพันธุ์ ที่ต้นน้ำบนเทือกเขาพนมดงรัก
…
7. บั้งไฟพญานาค
ขอบคุณภาพจาก : amazingthaitour
บั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย ปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าพิศวง มนต์ขลังแห่งความมหัศจรรย์ในดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา ในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ลูกไฟสีชมพูพวยพุ่งขึ้นจากลำน้ำโขง สู่อากาศสูงประมาณ 20-30 เมตร แล้วหายไป ท่ามกลางความเชื่อและความนับถือพญานาคสืบเนื่องกันมา ตั้งแต่บรรพบุรุษยาวนานนับพันปี
…
8. มอหินขาว
มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขาภูแลนคา อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เสาหินและแท่งหินที่นี่ส่วนใหญ่เป็นหินทรายสีขาว นอกจากนี้ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง จากการบอกเล่าถึงความแปลกประหลาดอัศจรรย์ที่มีคนเคยเห็นว่า ก้อนหินใหญ่ 5 ก้อน จะมีแสงสีขาวส่องขึ้นมาในทุกคืนวันพระ (15 ค่ำ และ 8 ค่ำ) คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้น จึงเรียกที่นี่ว่า มอหินขาว
4 ที่เที่ยว วิถีฮิปสเตอร์ เที่ยวคนเดียว ถ่ายรูปวนไป ในกรุงเทพฯ
HOMEPAGE
1. ล้ง 1919
การันตีว่ามุมถ่ายรูปสวยๆ เยอะมาก สำหรับ ล้ง 1919 อดีตท่าเรือกลไฟ กับ คลังสินค้าเก่า และเพราะความเก่านี่แหละที่ทำให้มันมีเสน่ห์! ไม่ว่าจะเป็นอาคารสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ภาพวาดตามผนังของตึก ลวดลายสุดคลาสสิคบนกรอบประตูและหน้าต่าง ศาลเจ้าแม่หม่าโจว้ โคมไฟสีแดงที่ห้อยประดับอยู่โดยรอบ โกดังสังกะสีสุดเท่ และแวะไปเดินเล่นชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนกลับบ้านกัน
********************************************
2. วังพญาไท
ความสวยคลาสสิคมีอยู่แทบทุกตารางพื้นที่ใน พระราชวังพญาไท หรือ วังพญาไท ซึ่งสร้างขึ้นในสมัย ร.5 เพื่อใช้ทดลองปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ และเสด็จประทับแรม รูปแบบสถาปัตยกรรมมีความเรียบง่ายแต่สง่างาม ในสไตล์อาคารยุโรป จุดเด่นอยู่ตรงหอคอยยอดแหลมของพระที่นั่งพิมานจักรี มุมถ่ายรูปเด็ดด้วยการช้อนเลนส์ขึ้นให้เห็นปลายยอดตัดกับสีท้องฟ้า สวยงามตามแบบฉบับศิลปะโรมาเนสก์ และ โกธิค รีไววัล
เวลาเปิด-ปิด : เฉพาะวันเสาร์ เวลา : 09.30 น. และ 13.30 น. (วันจันทร์-ศุกร์ และวันอาทิตย์สามารถเดินเยี่ยมชมบริเวณภายนอกได้) ไม่เสียค่าเข้าชม
********************************************
3. ธนาคารไทยพาณิชย์ – โบสถ์กาลหว่าร์
ย่านตลาดน้อย
ใครจะนึก ว่าย่านตลาดน้อย ชุมชนชาวจีนเก่าแก่ที่เกิดจากการขยายตัวทางการค้าของสำเพ็ง จะมีสถานที่ฮิปๆ แนววินเทจอย่างนี้อยู่ด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อยอดีตแบงค์สยามกัมมาจล สถาบันการเงินแห่งแรกของไทย ตัวอาคารเป็นทรงโคโลเนียล เด่นด้วยศิลปะแบบโบซาร์ ผสมนีโอคลาสสิก และตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือ กรมเจ้าท่า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีลมพัดโกรกเย็นสบาย จะถ่ายรูปกี่ร้อยใบก็พร้อม!
ถัดจากธนาคารไทยพาณิชย์ ใกล้ๆ กัน เป็นที่ตั้งของ โบสถ์กาลหว่าร์ หรือ วัดแม่พระลูกประคำ บริเวณเดียวกับโรงเรียนกุหลาบวิทยา เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมนีโอโกธิค ในโบสถ์มีรูปปั้นพระศพของพระเยซูเจ้า รวมไปถึงรูปปั้นแม่พระองค์อุปถัมภ์ และรูปพระนางมารีอาในท่าประทับยืนบนดวงจันทร์ ซึ่งชาวโปรตุเกสนำมาจากกรุงศรีอยุธยาในคราวที่เสียกรุงแก่พม่า
********************************************
4. ย่านสามแพร่ง – กระทรวงกลาโหม
ชวนสายติสท์ สายชิค และฮิปสเตอร์ คล้องกล้องออกมาแชะภาพย่านเมืองเก่า ในเขตพระนคร ที่ย่านสามแพร่ง ประกอบด้วย แพร่งภูธร แพร่งนรา และ แพร่งสรรพศาสตร์ ตึกแถวสองฝั่งถนน ซึ่งเคยเป็นวังเก่าของพระบรมวงศานุวงศ์ มีสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส ผสมผสานระหว่างจีนและโปรตุเกส แม้สามแพร่งจะผ่านยุครุ่งเรืองสูดสุดมาแล้ว แต่ยังคงเป็นแหล่งรวมของกินอร่อยๆ ทำให้ย่านนี้ยังคงคึกคักและเป็นที่โปรดปรานของเหล่านักชิม
จากสามแพร่งเดินข้ามสะพานมาเที่ยว ตึกกระทรวงกลาโหม อาคารสีเหลืองสดใส เข้ากันดีกับบานหน้าต่างสีเขียวสไตล์ยุโรป หน้าต่างบางบานปิด บางบานปิด หรือแง้มไว้เล็กน้อย เป็นกิมมิคเก๋ๆ เวลาถ่ายรูป ส่วนด้านหน้าอาคารเป็นพิธภัณฑ์ปืนใหญ่โบราณ ตั้งโชว์กลางแจ้งไว้หลายกระบอก นอกจากนี้เพื่อนๆยังสามารถเดินไปเที่ยวต่อได้ที่วัดระแก้ว ศาลหลักเมือง และท้องสนามหลวง อยู่ไม่ไกลกัน ^^
รวม 8 ของหวานยอดนิยม ทำแล้วรวย อร่อยไม่น่าเบื่อ
HOMEPAGE
1.ไอศกรีมกะทิสด
เมนูของหวานที่กินง่าย ขายง่าย และถ้าสูตรดีพัฒนาจากขายปลีกมาทำขายส่งได้เลย มติชนอคาเดมี โดย อ.มานะ พชนะโชติ ผู้ประกอบการและวิทยากรประจำมติชนอคาเดมี เล่าว่า ตัวเขาสามารถทำธุรกิจขายส่งไอศกรีมกะทิจนปลดหนี้ได้ ช่วงเทศกาลปีใหม่ วันเด็ก และเทศกาลสำคัญออเดอร์พุ่งกว่าแสนบาทเลยทีเดียว
อ.มานะ เล่าให้ “มติชนอคาเดมี” ฟังว่า ไอศกรีมสามารถทำทีละมากๆเพื่อสต๊อกเผื่อไว้ขายได้เป็นเดือนโดยแช่เย็นเอาไว้ ปัจจุบันผมทำทุกวัน วันละ 100-200 กิโลกรัม เพื่อทยอยส่งให้ลูกค้าแต่ละวันส่งให้ประมาณ10เจ้า บางคนรับไปขายตามห้างสรรพสินค้า บางคนเอาไปขายที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อเป็นของหวานตบท้าย
ใครกำลังมองหาสูตรทำไอศกรีมกะทิสด ไอศกรีมมะพร้าวอ่อน ไอศกรีมแต่งกลิ่นผลไม้ ครบทุกรสโดนใจ เข้มข้นหวานมัน ต้องสูตรของ อ.มานะ พชนะโชติ เป็นอีกหลักสูตรที่ลูกศิษย์ต่างยอมรับในรสชาติ
2.ขนมถังทอง
ขนมหวานที่ตลาดยังไปได้ดีเสมอ ซึ่ง อ.ธนวรรณ เทียมทัด หรือ อ. จิ๋ม เจ้าของร้านขนมถังทองชาววัง ตั้งอยู่ซอยมนตรีสุริยวงศ์ ซอย 6 ตรงข้ามปั๊ม ปตท. ในตัวเมือง จ.ราชบุรี และเป็นหนึ่งในวิทยากร “มติชนอคาเดมี” เล่าให้ฟังว่า หลังจากผันตัวเองจากพนักงานประจำในบริษัทโฆษณาแห่งหนึ่ง มาเปิดร้านขายขนมถังทองชาววัง หรือขนมถังแตกได้ 10ปีแล้ว ต้องบอกเลยว่าประสบความสำเร็จอย่างมากจากอาชีพนี้
เหตุที่ผันตัวมาทำขนมถังแตกขาย อ.ธนวรรณ บอกว่า ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศมาระยะหนึ่ง เริ่มคิดอยากมีกิจการเล็กๆเป็นของตัวเอง อยากมีเวลาเลี้ยงลูก และอยากกลับมาอยู่ต่างจังหวัด(ราชบุรี)
“ที่ร้านเรายังขายอยู่ได้ และมีลูกค้ามาซื้อเรื่อยๆน่าจะเป็นเพราะรสชาติ เรามีสูตรเป็นของตัวเอง ขนมถังทองชาววังของเรา เป็นสูตรแป้งกรอบนอกนุ่มใน วางทิ้งไว้จนเย็นก็ไม่แข็ง แป้งไม่เปรี้ยวเหมือนขนมถังแตกทั่วๆไป”อ.ธนวรรณกล่าว
ถามถึงรายได้จากการขายขนมถังแตก อ.ธนวรรณ เผยว่า ที่ร้านอยู่ต่างจังหวัดขายชิ้นละ10บาท ลงทุน500บาท ขายได้2,000บาทขึ้นไปต่อวัน เฉลี่ยขายได้วันละ 200-300 ชิ้น ทั้งนี้มีลูกศิษย์มาเรียนกับอาจารย์ เอาสูตรไปขายในกทม.ชิ้นละ20บาทก็ขายดี
“ตอนนี้ขายขนมถังแตกรายได้ดีกว่าทำงานออฟฟิศ บางวันขายดีมาก แต่ในวันที่ขายไม่ดีก็ไม่เคยขายขาดทุน หรือเข้าเนื้อเลย”อ.ธนวรรณกล่าวในที่สุด
3.ขนมเบื้องโบราณสูตรชาววัง
“ขนมเบื้อง” เป็นขนมไทยที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีหลักฐานกล่าวถึง ในคำให้การขุนหลวงหาวัด ว่า “บ้านหม้อ ปั้นหม้อข้าว หม้อแกงใหญ่เล็ก และกระทะเตาขนมครก ขนมเบื้อง”
สำหรับขนมเบื้องตำรับโบราณนั้น มีอยู่มากมายหลายแบบ ที่คุ้นเคยกัน ก็มี ขนมเบื้องแบบไทยดั้งเดิม ที่มีส่วนผสมหลักๆ คือ แป้งข้าวเจ้าและกะทิ ปรุงรสด้วยเกลือเท่านั้น หากมีสูตรที่อร่อย สามารถรับทำออกร้าน และทำขายเป็นอาชีพเสริมได้ เพราะคนไทยยังนิยมกินขนมไทยชนิดนี้อยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย
4.ขนมหม้อหลายแบบ
ยังคงครองตลาดขนมหวานแบบไทยๆที่ยังมีผู้กินผู้ซื้อไม่ขาดสายของขนมหม้อหลายแบบ อาทิ ปลากริมไข่เต่า กล้วยบวชชี บัวลอยเผือก เต้าส่วน ข้าวเหนียวเปียกลำไย เป็นต้น
ซึ่งจะทำขนมหม้อให้อร่อย ต้องมีสูตรของอาจารย์ผู้สอนที่เป็นผู้ประกอบการด้วยจะยิ่งทำให้ขายดี โดยเฉพาะทำให้ได้รสชาติที่เป๊ะ ไม่ผิดเพี้ยน ลูกค้าไม่หาย สูตรหนึ่งที่แนะนำคือ สูตรของ อ.พะเยาว์ กฤษแก้ว หรือ “ป้าเยาว์” เจ้าของร้านขนมหวานดังย่านนนทบุรี ใครได้ชิมเป็นติดใจอยากรู้ว่าอร่อยแค่ไหนต้องตามไปชิมกันให้ได้
5.คัพเค้ก
ยอดนิยมตลอดหลายปีมานี้ ซื้อง่ายขายคล่องต้อง “คัพเค้ก” ที่ยิ่งใครมีไอเดียตกแต่งทำให้คัพเค้กน่ากินมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งดึงดูดใจผู้บริโภค ที่อดซื้อไปฝากญาติฝากเพื่อนไม่ได้ ถือเป็นขนมที่วางขายได้ทุกที่ หรือจะทำส่งขายตามร้านเครื่องดื่มก็น่าสนใจ เป็นอีกกหนึ่งอาชีพเสริมที่ห้ามพลาด
6.เครปเค้ก
เมนูฟรุ้งฟริ้งที่เป็นที่โปรดปรานของหลายๆคน กับเครปเค้กที่เป็นแป้งเนื้อนุ่ม ปาดครีมสลับชั้นหวานหอม เป็นอีกเมนูที่ทำขายได้ง่าย เพราะไม่ต้องใช้เตาอบ และใช้วัตถุดิบไม่ยุ่งยาก หากได้ฝึกอบรมหรือฝึกเรียนทำแล้ว สามารถทำขายเป็นอาชีพเสริมได้ โดยไม่ยุ่งยาก สามารถรับทำตามออเดอร์ล่วงหน้าได้อย่างสะดวกสบาย
7.เค้กโรลครีมสด
เมนูเคียงเครื่องดื่มที่น่าลองทำขาย และเป็นเมนูกำลังฮิตน่ารักสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยแป้งเค้กนุ่มๆกินฟินๆขายเป็นตัวเลือกรับประทานคู่กับเครื่องดื่ม เป็นอีกหนึ่งขนมที่ห้ามมองข้าม
8.ขนมปังเบเกอรี่พื้นฐาน
เป็นเมนูขาประจำ ยอดฮิตตลอดกาล มีทั้งขนมปังกะโหลก, ขนมปังแซนด์วิช, ขนมปังโฮลวีท, แซนด์วิชทวิสต์ และขนมปังฝรั่งเศส หากได้สูตรทำขนมปังที่ดีก็ยิ่งไปได้ไกล จัดเป็นเมนูซื้อง่ายขายคล่องทุกยุคทุกสมัย
เครื่องดื่มสุขภาพ น้ำผลไม้เพื่อสุขภาพยอดฮิต 5 อันดับสำหรับสุขภาพของคนทุกวัย
เครื่องดื่มสุขภาพจากผลไม้อันดับ 1 น้ำแตงโมปั่น
น้ำแตงโมปั่นแบบเย็นๆ แบบไม่ต้องเติมน้ำตาลหรือจะเติมแค่นิดหน่อย ก็หวานเย็นชื่นใจได้รสชาติ ด้วยการเติมน้ำแข็งและเกลือป่นเล็กน้อย ถ้าใช้แตงโมสีแดงสดที่กำลังสุกพอดี บอกเลยว่าความหวานของแตงโมสดๆ สดชื่นและมีประโยชน์เต็มๆ เพราะแตงโมเป็นผลไม้ที่วิตามินและแร่ธาตุจำนวนมาก ได้แก่ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต น้ำตาล เส้นใย โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี กรดโฟลิก แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และ สังกะสี และที่สำคัญแตงโมมีน้ำเป็นส่วนประกอบช่วยในการล้างลำไส้ป้องกันท้องผูกได้อย่างดี ที่น่าสนใจแตงโมมีสารซิทรูไลน์ (Citrulline) มีประโยชน์ในการช่วยขยายหลอดเลือดแดงภายในร่างกายได้ ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด และผู้ป่วยเบาหวานสามารถกินแตงโมได้เพราะเป็นผลไม้กลุ่มให้พลังงานและน้ำตาลต่ำ
เครื่องดื่มสุขภาพจากผลไม้อันดับ 2 น้ำสัปปะรด
น้ำสับปะรดเป็นอีกหนึ่งเมนูน่าสนใจ เพราะนอกจากจะมีเส้นใยสูงมาก และยังมีแร่ธาตุและวิตามินต่าง ๆ จำนวนมาก ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 กรดโฟลิก ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุแมงกานีส ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ธาตุสังกะสี เป็นต้น และที่น่าสนใจคือเอนไซม์บรอมีเลน (Bromelain) ช่วยย่อยอาหารประเภทเนื้อและกระตุ้นการดูดซึมอาหารได้ดี ถ้าเรากินเนื้อสัตว์แล้วมีปัญหาอาหารไม่ย่อยน้ำสัปปะรดช่วยได้ นอกจากนี้น้ำสัปปะรดยังช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด และสลายไขมันในร่างกายได้ดี เมื่อบวกกับใยอาหารที่มีมากจึงเป็นผลไม้ที่ช่วยลดความอ้วนได้ดี ส่วนสรรพคุณสับปะรดทางสมุนไพรนั้น ก็ช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายเช่นกัน เช่น โรคบิด โรคนิ่ว ช่วยบรรเทาอาการแผลเป็นหนอง ขับปัสสาวะ เป็นต้น
เครื่องดื่มสุขภาพจากผลไม้อันดับ 3 น้ำแครอท
น้ำแครอท เริ่มเป็นที่นิยมดื่มกันมากขึ้น เนื่องจากแครอทมีรสชาติที่ หวานหอมมันและยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ในการบำรุงสายตาและบำรุงผิวพรรณเช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และที่สำคัญคือสาร “ฟอลคารินอล” (falcarinol) ซึ่งช่วยต่อต้านเซลล์มะเร็ง น้ำแครอท เป็นน้ำผักที่นิยมดื่มเพื่อบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทานเชื้อโรค ช่วยรักษาสมดุลของความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือด และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนโลหิต ที่สำคัญคือ ช่วยบำรุงสายตา รักษาโรคตาฟางมองไม่ชัดเจนเวลากลางคืน และป้องกันโรคต้อกระจก
เครื่องดื่มสุขภาพจากผลไม้อันดับ4 น้ำแอปเปิ้ล
แอปเปิ้ลไม่ว่าจะเป็นแอปเปิ้ลเขียว เหลือง หรือ แดง ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น แต่แอปเปิ้ลที่ให้พลังงานน้อยที่สุดและให้เส้นใยที่เป็นประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายมากที่สุด คือ แอปเปิ้ลเขียว การดื่มน้ำแอปเปิ้ลจะได้รับพลังงานและวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี 1 บี 2 บี 6 ไบโอติน เกลือแร่ คลอไรด์ เหล็ก ทองแดง แมกกานีส แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม ซิลิคอน กรดโฟลิก กรดแพนโทเธอนิค และแอปเปิ้ลยังมีกรดอินทรีย์อีก 2 ชนิด คือ กรดมาลิคและกรดทาร์ทาริก ซึ่งกรดนี้ช่วยย่อยอาหารจำพวกโปรตีนและไขมันได้ดี น้ำแอปเปิ้ลจึงมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยที่กำลังพักฟื้นอย่างมากเพราะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายอย่างดี
เครื่องดื่มสุขภาพจากผลไม้อันดับ 5 น้ำกล้วย
ปิดท้ายด้วยน้ำกล้วย ผลไม้ไทยๆ ที่เริ่มมีการนำมาทำน้ำผลไม้ปั่นกัน อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะกล้วยปั่นใส่นมสด นอกจากจะได้ประโยชน์เต็มจากโปแทสเซียมในกล้วยและแคลเซียมในนมแล้ว ในกล้วยยังมีวิตามินบี 6 วิตามินบี 12 แมกนีเซียม อยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะสาวๆ ที่มีอาการปวดประจำเดือนน้ำกล้วยช่วยได้ ส่วนใครอยากจะดื่มเป็นน้ำกล้วยน้ำว้า หรือ กล้วยหอมก็สามารถทำได้ทั้ง 2 วิธีแต่สำหรับสาวๆ ที่กำลังลดน้ำหนักแนะนำให้เป็นกล้วยน้ำว้าจะให้พลังงานน้อยกว่า ส่วนประโยชน์ของกล้วยทั้ง 2 ประเภทนั้นๆช่วยรักษาอาการแผลในกระเพาะอาหารได้ด้วย และยังเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยล้างลำไส้และเพิ่มประสิทธิภาพระบบขับถ่ายของเสียในร่างกายได้เป็นอย่างดี กับ 5 เมนูน้ำผักผลไม้เครื่องดื่มสุขภาพง่ายๆ ที่หากินเองได้ง่ายๆ หรือจะทำกินเองได้ที่บ้านก็แล้วแต่สะดวก ที่สำคัญคือ หาง่าย ราคาย่อมเยา และมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
แหล่งที่มาบทความ: https://www.tnews.co.th/contents/359429
7 คาเฟ่เปิดใหม่ไปแล้วได้รูปโปรไฟล์เฟียซ ๆ ไว้เปลี่ยนอีกหลายเดือน
โรงสี สตูดิโอ สถานที่พักผ่อนหย่อนใจแห่งใหม่ กลางธรรมชาติ บนเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ที่ถูกดัดแปลงมาจาก “โรงสีไทยอุดม” โรงสีข้าวพลังงานไอน้ำอายุกว่า 100 ปีโดยใช้เปลือกข้าว (แกลบ) ที่ได้จากการสีข้าว มาเป็นเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนพลังงาน โดยทางร้านยังคงโครงสร้างไม้สักและบรรยากาศของโรงสีเก่าเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
ภายในแบ่งออกเป็น โซนคาเฟ่ริมน้ำอย่าง Milli Cafe & Restaurant คาเฟ่ริมน้ำ บรรยากาศดีที่เต็มไปด้วยมุมเก๋ ๆ ให้คนชิค ๆ ได้แวะมาสัมผัส และ โรงสีโฮมสเตย์ โฮมสเตย์แสนสงบที่ให้บรรยากาศอบอุ่นเหมือนอยู่กับครอบครัว
ในส่วนของร้านอาหารและคาเฟ่ จะเน้นเสิร์ฟเมนูแบบไทย ๆ รสชาติจัดจ้าน แนะนำให้ลองเมนู ปอเปี๊ยะโรงสี (250 บาท) ปอเปี๊ยะสูตรพิเศษที่คิดค้นโดยเชฟของทางร้าน มีส่วนผสมของหมูและกุ้ง ประกบด้วยสาหร่าย จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด
อย่าลืมสั่งเครื่องดื่มมาเติมความสดชื่นให้กับมื้อนี้ แนะนำเป็น Strawberry Soda (85 บาท) ซอสสตรอเบอร์รีสดผสมมากับโซดา ท็อปด้านบนด้วยสตรอเบอร์รีสด
โรงสีสตูดิโอ
เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 22.00 น.
โทร. 02-082-8865
www.facebook.com/RongsiStudio
เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี
เปิดทุกวัน เวลา 08.00 - 22.00 น.
โทร. 02-082-8865
www.facebook.com/RongsiStudio
Forever Cafe ความมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่นที่พร้อมเติมเต็มความอบอุ่นให้กับทุก ๆ คนในย่านชินเขต ด้วยสารพัดเมนูโฮมเมด ที่หยิบยกความทรงจำในวัยเด็ก มาสร้างสรรค์เป็นอาหาร เครื่องดื่มและขนมหวานให้ได้แวะมาลิ้มลอง
ภายในเน้นการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และสีขาวสะอาดตาเป็นหลัก ภายใต้คอนเซ็ปต์ของการแวะมากินข้าวบ้านเพื่อน แต่สะดวกสบายราวกับอยู่บ้านตัวเอง ด้วยการสร้างสรรค์มุมต่าง ๆ อย่างมีที่มาที่ไป ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางโซฟานุ่ม ๆ ให้อยู่ตรงข้ามทีวี หรือมุมโต๊ะยาวสำหรับรับประทานอาหารและนั่งทำงานชิลล์ ๆ
สำหรับเมนูของทางร้านเน้นเสิร์ฟเมนูสไตล์โฮมเมดเป็นหลัก เพราะทุกจานทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่ม ทำสดใหม่แบบแก้วต่อแก้ว จานต่อจาน เลยทีเดียว เริ่มต้นกันที่ของว่างน่าลองอย่าง Shrimp Toast (98 บาท) ขนมปังคุณภาพดีที่ทางร้านสั่งทำจากโรงงานโดยเฉพาะ ทาเนยแบบชุ่ม ๆ แล้วนำไปจี่ไฟจนสีเหลืองกรอบ กลิ่นหอมน่าทาน ท็อปด้านบนด้วยกุ้งขนาดพอดีคำปรุงรส สูตรพิเศษของทางร้าน
เมื่อมีอาหารว่างทานกันแล้ว อย่าลืมสั่งเครื่องดื่มคู่กัน ทางร้านแนะนำเป็นเมนูขายดีอย่าง Home alone (98 บาท) เมนูที่ได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ชื่อดังในวัยเด็ก ที่หลายจนมักจะตื่นมาดูกันตอนเช้า ๆ พร้อมกินนมและอาหารเช้าอร่อย ๆ คู่กัน ทางร้านจึงนำนมไวท์มอลต์มาผสมกับเอสเพรสโซช็อต ให้ได้ความเข้มข้นและหอมละมุนเข้ากัน
บ้านอากงอาม่า ร้านอาหารและคาเฟ่ที่อัดแน่นไปด้วยความอบอุ่น ความทรงจำในวัยเด็กและเรื่องราวความเป็นมาของตระกูล ‘ทังสมบัติ’ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย น้ำปลาตรารวงทอง ที่คุณพูนศักดิ์ ทังสมบัติ เจ้าของบ้านรุ่นปัจจุบันได้นำมาปรับปรุงใหม่ และเปิดเป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ที่ด้านล่างของบ้าน
ตัวร้านเป็นบ้านไม้หลังน้อย ที่ตั้งอยู่ท้ายซอยสมเด็จเจ้าพระยา 3 แต้มไปด้วยสีสันสดใสสวยงามของศาลเจ้ากวนอู และระเบียงที่ยื่นออกไปชิดติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา คงความคลาสสิกการก่อสร้างแบบโบราณเอาไว้ ทำให้กลายเป็นเสน่ห์แบบที่ไม่มีใครเหมือน
หน้าร้อนแบบนี้แนะนำให้ลอง เฉาก๊วยโบราณสูตรอาม่า (40 บาท) เมนูเย็น ๆ เคี้ยวเพลิน เฉาก๊วยเหนียวนุ่ม โรยด้วยน้ำอ้อย หวานหอม ชื่นใจด้วยน้ำแข็งที่เติมลงไป เป็นหนึ่งในขนมโบราณที่ชวนให้คิดถึงวันเก่า ๆ
หรือจะลองเป็น วุ้นมะพร้าวน้ำหอมสูตรอาม่า (20 บาท) วุ้นมะพร้าวน้ำหอมผสมผสานกับเนื้อมะพร้าวอ่อน เสิร์ฟมาในกระทงเล็ก ขนาดพอดีคำ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)